เพิ่งเล่นจบ #11: Cabernet



ตั้งแต่เราเล่น Disco Elysium กับ Tyranny เมื่อหลายปีที่แล้ว มันเปิดโลกการเล่น story-driven RPG กึ่ง VN ของเรามากๆ ด้วยความเป็นคนที่ไม่มีสมาธิพอที่จะอ่านหนังสือนิยายจบได้เป็นเล่มๆ (ขนาดเล่นเกมที่ไม่มี VA เรายังต้องพักเป็นบางช่วงเลย😭) เกมเหล่านี้มันเป็นตัวแทนสื่อหนังสือสำหรับเราไปโดยปริยาย เวลามีเกมแนวนี้ที่น่าสนใจก็กดมาซื้อแบบดื้อๆ เลย 🙃
ความแปลกของเกมพวกนี้สำหรับเราคือ เกมแนวนี้ที่พีคๆ ส่วนใหญ่มันเป็นเกมฟอร์มเล็ก งบน้อย และไม่ค่อยดังสักเท่าไหร่ ตัวอย่างเหมือน 1000xResist ปีที่แล้ว ที่กว่าจะมาปังก็ปาไปปลายปีแล้วตอนที่ได้ไปโผล่งานรางวัลนู้นนี้ ยังไงก็ตาม ช่าจะมี "ค่ายอินดี้ประจำ" ที่ช่าจับตามองตลอด และหนึ่งในค่ายนั้นคือน้องเต่า Akupara ที่มีเกมเนื้อหาอย่างพีคแบบ Universe For Sale, Rain World: Downpour, CryptMaster และเกมสุดแกลม Sorry We're Closed

ถึงแม้เราจะพลาด Sorry We're Closed ช่วงที่เกมปล่อยออกมา ตัวเกมมันปังปุริเยจนเรารู้สึกว่าแม่ง ฉันพลาดเกมหน้าค่ายเต่าไม่ได้แล้วละ ตัวช่าเลยตั้งอกตั้งใจรอเกมใหม่ของค่ายนี้ และเกมนั้นก็คือ Cabernet นั้นเอง หลังจากช่าเล่น Avowed เสร็จเมื่อเดือนที่แล้ว ก็ตัดสินใจอย่างไม่ลังเลเลยว่า ถ้าไม่เล่น Carbernet ตอนนี้ถือว่าพลาดมาก ต้องกดแล้วละ (อารมณ์เหมือนตอนพลาด Sorry We're Closed T_T)

Cabernet เป็นเกมที่แค่ดูตัวอย่างก็มีความน่าเล่นอย่างมากแล้วสำหรับเรา ในเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นสาวน้อยแวมไพร์มือใหม่ในยุคปี 1800s มีความเป็นแฟชั่นยุค Victorian นิดหน่อย ถึงแม้ว่าตัวเกมนั้นจะเกิดขึ้นในประเทศยูโรปตะวันออกประเทศนึงที่ไม่ได้ระบุ ใช้มุมกลองแบบ side scrolling และมีความให้อารมณ์ visual novel สูง
สิ่งแรกที่มันสะดุดตาเราอย่างแรกคือการวาดตัวละครของเกมนี้ โดนเส้นเราอย่างมาก มันทำให้เรานึกถึงตุ๊กตากระดาษตอนเราเด็กๆ มีความตาหวานเล็กๆ แต่ในแบบฝั่งตะวันตก

ความประทับใจครั้งแรกคือสกรีนเปิดตัวเกมมา ผ่าม! สิ่งแรกที่เราเห็นเป็นงานศพนางเอกนั้นเอง!!!?
เราได้รับบทเป็น Morozova Elizaveta หรือที่ตัวละครในเกมทุกคนเรียกกันง่ายๆ ว่าลิซ่านั้นแหละ หมอวัยสาวผู้ที่เปิดเกมมาก็ตายเสียแล้ว แป่ว
ในงานศพก็ที่มีลุงของน้องลิซ่าเป็นโฆษก เราก็ต้องสวมบทของลุงสักแปปส์ กล่าวประวัติของลิซ่าในงาน สึ่งชอยส์เหล่านี้มันจะเป็นการเลือกสกิลความรู้ตั้งต้นของลิซ่า เป็นหมัดฮุคแรงๆ ที่ทำให้เรารู้เลยว่าเกมนี้มันมีอะไรดีๆ เยอะแน่นอน

ไหนก็ๆ กล่าวถึงระบบสกิลแล้ว ก็ขอแวะพูดเรื่องนี้ก่อนเลย ตัวน้องลิซ่าจะมีสกิลอยู่สี่อย่าง: Music & Art, Literature, Science และ History สึ่งเกมนี้ใช้ระบบสกิลเช็คปลดล็อคออปชั่นคำตอบ
ขอเวลานี้นิสนึงอวยดีไซน์ของเมนูและ UI ต่างๆ ทำออกมาได้น่ารักได้ฟีลวินเทจ อ่านง่ายสบายตาดี
น้องลิซ่าสามารถเลเวลอัพเอาสกิลพอยท์ได้ไปเรื่อยๆ หรืออ่านหนังสือในเกมเพิ่มสแตทเหล่านี้ได้

แต่ระบบสกิลเช็คไม่ใช้อย่างเดียวที่เกมนี้มีในการปลดล็อคออปชั่นไดอะล็อก เพราะเกมนี้มีระบบ morality (ศีลธรรม) ด้วย เพราะการมาเป็นแวมไพร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ความเป็นมนุษของเรามันโดนทดสอบอยู่ สึ่งก็อยู่ที่ว่าเราจะเล่นลิซ่าให้มีความเป็นมนุษ หรือว่าจะเปิดอกรับความเป็นแวมไพร์อย่างเต็มที่ (ไหนๆ ก็เป็นปีศาจแล้ว) ก็แล้วแต่จะเลือกเล่น
สึ่งตรงนี้เราว่าทำออกมาได้ดีเลย เพราะการที่จะ embrace การเป็นแวมไพร์ ไม่ได้หมายความว่าลิซ่าจะกลายเป็นคนใจร้ายใจดำ (อย่างที่เห็น เกจนั้นของเราก็เกินครึ่ง😅) แต่ถ้าจะเล่นเวย์นั้นก็ได้แหละ

สึ่งการ roleplay ตรงนี้มันละเอียดลงไปถึงการกินเลือดด้วย! เราสามารถเลือกได้ว่า เราจะใช้เงินซื้อเลือดบริจาคมากิน ไปกินเลือดชาวบ้าน หรือแม้กระทั่งดูดเลือดสัตว์เล็กสัตว์น้อยก็เป็นอีกทางเลือดในการประทังชีวิตของลิซ่า
ถึงแม้เราจะเป็นแวมไพร์ในเมืองเล็กๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้จักคนน้อยสักหน่อย ด้วยความเป็นหมอ (ที่รักษาได้แค่ตอนกลางคืน 🤔) มันก็ไม่ได้แปลกที่เราจะได้พบปะผู้คนมากมายถึง 23 คน (และบางคนที่ไม่ใช่คน อิฟยูโนว์วอทไอมีน) และ 1 น้องแมว

และใช้แล้ว เกมนี้มีระบบ romance ด้วยแหละ คิคิ แต่ถ้าให้พูดตามตรงเราว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นโฟกัสหลักสักเท่าไหร่ อย่าไปหวังอะไรเยอะ
ความเจ๋งของเกมนี้คือ ตัวละครเกือบทั้ง 24 ตัว ตายได้หมดถ้าเราจะเล่นอย่างนั้น คือเราจะกินเลือดของพวกเค้าจนหมดตัว หรือเราจะตัดสินใจที่อาจจะบ้งๆ พาคนเหล่านี้ไปสู่สุคติ (?) ก็แล้วแต่จะเล่น

นอกจากเรื่องความเป็นความตาย เกมนี้มี side quests ของตัวละครเหล่านี้เกือบทุกตัว ที่จะทำให้เรารู้จักพวกเค้ามากขึ้น พวกเควสเหล่านี้เนี้ยแหละ คือหัวใจหลักของเกมนี้
เกมนี้ใช้เควสเหล่านี้สำรวจความเป็นมนุษและความเหลื่อมล้ำในชนชั่นและเพศที่มันก็ยังคงเกิดขึ้นในสังคมทุกวันนี้ เพื่อนแวมไพร์ของเรามีบางท่านที่รับได้ที่เป็น แต่บางท่านก็รู้สึกว่าชีวิตมันหมดความหมายเพราะว่า "ความตาย" มันหมดไปแล้ว นอกจากตั้งใจ (หรือโดนบังคับ) ไปตากแดก หรือการที่ต้องตามผู้นำแวมไพร์ชนชั้นสูงที่มีกำลังเงิน ขายเลือดมนุษให้แวมไพร์ตนอื่นดื่ม

หรือตัวละครที่เป็นคนที่เกิดมาทุนไม่เท่ากัน หรือการเกิดเป็นหญิงในสังคมที่ยังปิตาจ๋า กับทางเลือกที่ไม่ค่อยมี หรือการที่ต้องตามหลังผู้ชาย ก็เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ยิ่งตัวลิซ่าเป็นหมอที่เก่งมากในยุคนั้น ตัวเธอจะพบข้อครหาจากชายแทร้บางคน สึ่งก็ขอบคุณทีมเขียนที่ไม่ได้ใส่เยอะจดน่าหดหู่ใจ แต่ไม่ได้เพิกเฉยกับทอปปิกหนักๆ เหล่านี้

และเด็ดที่สุดก็น่าจะเป็นตัวเรื่องหลักที่ลิซ่าต้องสู้กับระบบเนี้ยแหละ ทั้งระบบคลาสซิสเน่าๆ ในสังคมแวมไพร์ ระบบการเมืองมนุษที่กดขี่คนที่ไม่มี ความรุนแรงแบบ "นายสั่งมา" ของตำรวยหัวขวด
ถึงแม้เกมนี้ไม่มีคอมแบท แต่ก็ทำให้อยากกระทีบตัวละครหลายตัวอยู่ 555+

มันก็กลับมาเรื่องนิยามของ "โลกบังคับให้เราร้าย" แต่เราต้องร้ายตามโลกจริงๆ หรอ
สิ่งเหล่านี้ที่ต้องเจอมันตอกย้ำตัวเราที่เล่น และตัวละครของลิซ่าว่า ความเป็นมนุษและเพื่อนมนุษคืออะไร และการที่เป็นแวมไพร์นั้นแปลว่าเรายังมีความเป็นมนุษในตัวเราได้หรือไม่ เพราะความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือลิซ่านั้นตายแล้ว และจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปอีกต่อไป
หลายๆ ชอยส์ในเกมนี้มันไม่ง่ายที่จะเลือกเพราะทุกชอยส์มันมีเหตุผลและมุมมองที่ถูกต้อง และยังมี consequences จุกๆ รอเราอยู่ (ยังกะ Avowed) และมันก็ทำให้เราคิดถึงตัวเราเองในชีวิตจริงในหลายๆ เรื่อง เป็นอีกเกมที่เขียนออกมาได้สุดยอดเลยละ

เอาจริงๆ อยากให้คะแนนเต็มเพราะมันตรงจริตมาก แต่เกมนี้เราว่าทางทีมงาน Party for Introverts พลาดตรง QA อย่างจัง อาจจะเพราะไม่มีบัดเจทด้วย แต่เกมนี้มี game breaking bug ที่บังคับเราโหลดใหม่หลายจุด ส่วนตัวเราเจอไปถึง 4 รอบ
แต่ด้วยความที่การเขียนมันพีคสุดๆ มันก็ทำให้เราเล่นจนจบ อิ่มไปกับเนื้อเรื่องที่มันเป็นจุดแข็งจริงๆ กับการเลือกชอยส์ที่รู้สึกได้ถึงอิมแพค
ไม่อยากให้พลาด แต่ก็อยากให้รอแก้บัคกันไปก่อน ช่วงกลางปีหน้าจะกำลังดี เกมนี้เป็นอีก GOTY Contender ของเราเลยละ
4.5/5