🌸 Tasha Reviews 🌸

เพิ่งเล่นจบ #10: WARRIORS: Abyss

Tasha Strong
Tasha Strong

ในช่วงสามสี่ปีให้หลัง บริษัทและค่ายเกมต่างๆ ในญี่ปุ่นนั้น จัดได้ว่ากำลังกลับมาเฟื่องฟูในยุคทองใหม่ กับการปูทางของค่ายเกมขึันหิ้งอย่าง Capcom ที่ได้ปล่อยเกมออกมารัวๆ ไม่ว่าจะเป็น remake หรือภาคต่อหลายๆ เกม (ถึงแม้ Dragon's Dogma 2 กับ Monster Hunter Wilds จะทำให้คนเริ่มหวั่นใจเรื่อง RE Engine ก็ตาม) หรือ SEGA ที่มี Sonic Team, Atlus และ RGG Studio ที่ปล่อยเกมมาตีตลาดได้เรื่อยๆ และมีเกมได้ใจผู้เล่นหลายท่านอย่าง Sonic Frontiers, Metaphor: ReFantazio และ Yakuza: Like a Dragon/Like a Dragon: Infinite Wealth

หนูติ่ง SEGA อยู่แล้ว 555+ เพิ่งได้ Metacritic's Publisher of the Year 2024

ส่วนตัวเรามองว่า Koei Tecmo ก็เป็นหนึ่งค่ายที่ "ซุ่มเงียบ" ปล่อยเกมดีๆ มาเป็นระยะอย่าง Koei Tecmo ที่ก็ปล่อยเกมมาเรื่อยๆ (Atlier, Nioh 2, Wo Long) และทำได้ดีในทั้งด้านกำไรและคำวิจาร และเป็นอีกหนึ่งมือที่ช่วยพลัก Golden Age ของเกมญี่ปุ่นอย่างเงียบๆ

สึ่งมันก็ทำให้อดเสียได้กันไม่ได้ว่าแฟรนไชส์คู่บุญอย่าง Dynasty Warriors นั้นจะซบเซาขนาดนี้ หลังจากปล่อย Dynasty Warriors 9 ไป Omega Force ก็กลายเป็นมือปือรับจ้างทำเกมแนว musuo ให้ IP อื่น ถ้าพูดตามตรง ฟีดแบคของเกมเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Persona 5 Strikers หรือ Fire Emblem ทั้งสองเกมนั้น มันออกมาดีกว่า IP ตัวเองสะงั้น มันทำให้เราไม่แปลกใจเลยที่ Dynasty Warriors Origins มาแนวฉีกจากภาคก่อนๆ ถึงแม้หลายคนไม่แน่ใจว่ามันจะออกมาโอเคไหม กับการที่เกมมีตัวละครเอกเป็นกิจจลักษณะ แต่ตัวเกมเองก็พิสูจน์แล้วว่า Omega Force still got it ด้วยความช่วยเหลือของ Team Ninja และทีมนักเขียนจาก Fire Emblem

น้องหน้ามน uwu

แต่มันก็จะน่าเสียดายไปถ้า Omega Force ทิ้งหนึ่งในสปิริตสำคัญของความเป็นเกม musuo สึ่งก็คือการเล่นเป็นตัวละครอะไรก็ได้ในจักรวาลนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น Orochi หรือ Dynasty เราเลยคิดว่าโปรเจค WARRIORS: Abyss ก็เป็นเกมที่ปล่อยออกมาสนอง need ของแฟนเกมที่คิดถึงตัวละครเหล่านั้น ในฟอร์แมต roguelike

อยู่ดีๆ ก็เข้าเรื่องสะงั้น เอารูปที่ถ่ายจาก Steam Deck ไปดูค่า

พูดให้เห็นภาพแบบชัดๆ ตัวเกม WARRIORS: Abyss นั้นเป็นเกม action roguelike ที่มีฟอร์แมตการเล่นและมุมกล้องคล้ายเกม Hades กับการรวม roster ตัวละครระหว่าง Warrior Orochi และ Dynasty Warriors ทำให้เกมนี้มีตัวละครที่เราเล่นได้ถึง 105 ตัว ที่มาพร้อมกับระบบ "รวมทีม" ที่เราสามารถสุ่มหาตัวละครอื่นเข้ามาในตี้เราเป็น support skill ได้ถึง 6 ตัว (แต่ละรันมันเก็บได้มากกว่านั้นเอา stat เดี๊ยเราขยายให้อ่านด้านล่าง) โดยค่าย Omega Force เคลมว่าเราจะมีสไตล์การเล่นถึง อ่านเลขอีกรอบ

16,000,000,000 สไตล์!?!?!?!?!?!?

พูดตรงๆ เลยนะ เชื่อกันจริงหรอ 555+

ถามช่าว่าจริงไหม ช่าก็บอกได้แต่ว่า เหอะๆ ไม่หรอก ถ้าพูดถึงตัวเลขและ unique combination มันก็อาจจะถึงแหละ แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะว่าเอาจริงๆ อย่างที่เรารู้ บางตัวมันก็เล่นคล้ายๆ กันนั้นแหละ 555+ เน้นปริมาณ

แต่ทว่า มุมกล้องนี้ กับความที่เป็น roguelike มันทำให้เราได้ความรู้สึก 1v1000 ที่เราโตมากับสามก๊กยุคเพลย์สองเหมือนกัน ไม่ใช่ว่า Origins ไม่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้นนะ แต่การที่ได้เล่นตัวละครที่เราโตมาด้วย แถม roster ที่ได้ขยายกว่าจนตอนนี้ราชวงศ์จิ้นนับเป็น category ตัวเองไปแล้วถึงสองสามภาค มันทำให้รู้สึกว่า อือแหะ เกมนี้มาไกลเหมือนกันว่ะ

นี้ขนาดถ่ายตอนยังไม่ได้ครบ 105 ยังล้นจอ

ถ้าถามว่าเกมเพลย์มันออกมาเป็นยังไง ก็ได้แต่ตอบว่า มันเล่นเหมือน Warriors ทั่วไปเลย และ movesets ของตัวละครของทั้งสองเกม (เรียก Orochi กะ Dynasty อย่างนี้ละกันนะ) ก็เล่นเหมือนเวอร์ชั่นอื่นๆ แค่เปลี่ยนมุมกล้อง พูดง่ายๆ เราก็แค่กด สี่เหลี่ยม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม สามเหลี่ยม เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการกดสามเหลี่ยมสุดท้ายมันจะเป็นการกด support skill

ตอนเล่นสนุกนะ แต่พอดูภาพ มันดูไม่ค่อยออกเหมือนกัน 😭

พูดง่ายๆ คือลูปเกมเพลย์มีอยู่สี่เสต็ป:

  1. เลือกตัวละครที่จะเล่น
  2. เคลียร์สเตจหาตัวอื่นเข้าตี้รับโบนัส
  3. ตายแล้วเล่นใหม่
  4. เอาเงินที่ได้ไปซื้อตัวใหม่เล่น

ถ้าเราเคลียร์ได้ ก็จะเพิ่มระดับความยากได้ ทำให้เราได้เงินมากขึ้น เอาไปซื้อตัวใหม่/จุติตัวละครเรา มันทำให้ replayability เกมนี้สูงมาก โดยเฉพาะถ้ามีเวลาว่างแค่ 30 นาทีกว่าๆ แล้วรู้สึกเบื่อๆ

กดลิโป้สะคะ รออะไร

ความเป็น roguelike 16,000,000,000 สไตล์ของเกมนี้มันอยู่ที่การเพิ่มฮีโร่เข้าตี้ สึ่งในการเลือกแต่ละครั้ง เราก็ต้องนึกก่อนว่ารันนี้เราจะเล่นยังไง ฮีโรแต่ละตัวจะมีเข็มกลัด 1 ถึง 4 อัน ซึ่งพอเรายิ่งเก็บเข็มกลัดเหล่านี้ ตัวเราก็จะตบแรงขึ้นตามตารางข้างใต้

ถ่ายตารางมาให้ดู รอบนี้เราเน้นน้ำแข็ง + สายฟ้า

เข็มกลัดทั้งหลายก็มีพลังที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเข็มกลัดไฟ ที่ทำให้เราตีติด burn หรือจะเป็นเข็มกลัดความรู้ที่ทำให้เราใช้ท่า musuo ได้บ่อยขึ้น และที่ไม่อวยไม่ได้คือเข็มกลัดโล่ ที่ท่าเก็บครบ 18 อัน จะทำให้เราเป็นอมตะ

แต่นอกจากระบบเข็มกลับแล้ว ก็ยังมีระบบ "หมวดหมู่" ที่จะปลดล็อคพลังของทั้งตัวละครที่เราเล่น และตัวละคร support ของเราด้วย ทำให้เราต้องแพลนเลยว่า ตัวไหนเป็นตัวที่ไม่มีไม่ได้ คือถ้าเล่นลิโป้ ยังไงก็ต้องเก็บเตียวเสี้ยนกับตั้งโต๊ะ ถ้ามีทั้งสองคนในตี้จะทำให้ stat attack ของลิโป้เพิ่มถึงเท่าตัว หรือการที่ถ้าเล่นห้าทหารเสือสักตัว ก็ต้องเก็บทั้งจ๊กก๊กเลย

หรือถ้าเล่นหนุ่มหล่อจิวยี่แล้วมีอุยกาย ก็จะได้บัฟตีติดธาตุ ประมาณนั้น

ส่วนตัวเกมเองมีอยู่ 4 โซน แต่อย่าเรียกว่าโซนเลย เพราะมันแทบจะเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นมอนหรือฉากหลัง เราว่า Omega Force ทำตรงนี้ไม่ผ่าน เพราะทั้งสี่โซนดูจืด ไม่ค่อยดึงดูดหรือสะดุดตา แถมตัวมอนที่เราตบเป็นพัน ก็ดูเหมือนกันทั้ง 4 โซน 36 สเตจ
เอาจริงเวลาเล่นก็ไม่ได้มีเวลาดูตัวโซนเพราะตามัวแต่กำลังหลบ telegraph 555+ แต่ก็อดเอาไปเปรียบกับ Hades หรือเกมอื่นที่อาจจะมีงบที่สูงกว่าไม่ได้

สภาพคนที่หลวมตัวเล่นจน Unlock ทุกอย่าง

จะว่าไปสังเกตุไหม ปกติช่าจะเปิดมาพูดเนื้อเรื่องก่อนเลย แต่เกมนี้มัน อือจะพูดไงดี จะพูดว่าไม่มีก็ไม่ถูก แต่พูดว่ามีก็เหมือนโกหก เราสวมบทคนที่โดน isekai (-_-) ให้มาช่วยน้องเอนม่า มากอบกู้บัลลังก์ยมโลกคืน แค่นั้นเลย ไม่มีอะไรเลยค่ะ 😭 clear รอบใหม่ก็ไม่มีเนื้อเรื่อง

มองภาพรวมแล้ว มันเป็นเกมที่เล่นสนุกและเพลินมาก แนวปิดสมองแล้วไล่ฟันไปเรื่อยๆ เวลาเล่นแล้วติดลม การเห็น VFX เว่อวังอลังการมันทำให้โดปามีนหลั่งแต๊ๆ ถึงแม้ดีไซน์ของโซนและมอนจะดูน่าเบื่อก็เหอะ (แถมเนื้อเรื่องที่ไม่มีก็ด๊าย)

นอกจากนั้นมันก็ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นกับโปรเจคต่างๆ ของ Koei ที่กำลังมาทั้งปีนี้และปีหน้า การที่ Omega Force เปิดปีนี้มาอย่างสวยมันปูทางให้เกมอื่นของ Koei อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตของ Rise of Ronin กลางเดือนนี้ หรือเกมตระกูล Ninja Gaiden ที่กำลังมาเรื่อยๆ และ Atlier ภาคใหม่ที่น่าเล่นไม่แพ้กัน

GG!

และอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคืออนาคตของ Omega Force และตระกูลเกม Warriors เราว่าการที่ทีมงานกล้าทีจะออกมาจาก comfort zone ทำเกมแนวนี่สเกลเล็กแบบเกมนี้ หรือการแหวกแนวทำ Origins มันโชว์สปิริตของค่ายที่อยากจะเซอไพรส์เราในแบบใหม่ๆ มันอาจจะไม่สมบูรณ์ และมีอะไรที่ทำได้ดีกว่านี้เยอะ แต่มันสนุกมาก และทำให้เราตั้งหน้าตั้งตารอภาคต่อของทั้ง Dynasty Warriors และ Warriors Orochi

3/5


รีวิวอื่นๆ

เพิ่งเล่นจบ #11: Cabernet

"เกมแวมไพร์แนว narrative RPG ยุค 19th กับบททดสอบสุดหินด้วยของบริบทที่ว่า 'โลกบังคับให้เราร้าย' ที่มากับตัวละครและเนื้อเรื่องอันน่าประทับใจ (และบัคที่ทำให้อยากร้องไห้ T_T)"

Tasha Strong
Tasha Strong

เพิ่งเล่นจบ #9: Avowed

"มันจะมี RPG สักกี่เกมที่ทำให้เราหยุดและนั่งคิดเกือบๆ 10 นาทีก่อนจะกดเลือก choice และมันจะมี RPG สักกี่เกมที่ทำอะไรไว้ แล้วเห็นผลที่ตามมาในตลอดการเล่นเกือบ 56 ชั่วโมง นี้มันงานร่างทองของ Obsidian ชัดๆ"

Tasha Strong
Tasha Strong